ผ้าไหมและไหมหม่อนสามารถใช้งานได้ในลักษณะเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันมาก บทความนี้จะอธิบายวิธีแยกแยะระหว่างผ้าไหมและผ้าไหมหม่อน เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้ตามความต้องการ
- ต้นกำเนิดทางพฤกษศาสตร์: ผ้าไหมเกิดจากแมลงหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่อยู่ในสกุล Apis (ผึ้งบัมเบิลบี) และ Bombyx (หนอนไหม) รังไหมเหล่านี้จะถูกรวบรวม ต้ม ย้อม และปั่นเป็นเส้นใยละเอียดสำหรับทำผ้า ในทางกลับกัน ไหมหม่อนมาจากผีเสื้อกลางคืนป่าหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะ Antheraea pernyi และ Antheraea paphia ไหมหม่อนมีราคาแพงกว่าไหมที่เพาะเลี้ยง เนื่องจากไม่ได้เพาะพันธุ์เพื่อการค้า
- กระบวนการผลิต:ขั้นตอนการแปรรูปขั้นต้นนั้นคล้ายคลึงกันมาก แต่หลังจากนั้นจะแตกต่างกันออกไป รังไหมดิบจะถูกนำไปแช่ในน้ำเดือด ซึ่งจะอ่อนตัวลงและคลายตัวเป็นเส้นยาว จากนั้นนำรังไหมออกมาพันบนหลอดขนาดใหญ่เพื่อเตรียมสำหรับการทอหรือถักไหม หนอนไหมหม่อนก็ถูกต้มเช่นกัน แต่เส้นใยของพวกมันจะไม่ยาวเท่า (เนื่องจากอาหารที่แตกต่างกัน) ดังนั้นจึงไม่สามารถคลายตัวเป็นเส้นได้
- มาตรฐานคุณภาพ:ผ้าไหมมัลเบอร์รี่มีความทนทานมากกว่าผ้าไหมทั่วไป และจะใช้งานได้นานกว่ามากหากดูแลรักษาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ผ้าไหมมัลเบอร์รี่ยังมีคุณสมบัติไฮโปอัลเลอร์เจนิก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ต่างจากผ้าไหมทั่วไปที่มีผิวมันเงา
ผ้าไหมมัลเบอร์รี่มีอัตราส่วนราคาต่อคุณภาพที่สูงกว่าผ้าอื่นๆ ในประวัติศาสตร์วงการเครื่องแต่งกาย แม้จะไม่หรูหราเท่าผ้าไหมแท้ แต่ก็มีเหตุผลที่ทำให้ผ้าไหมชนิดนี้สามารถทนทานต่อกาลเวลาได้ นั่นคือราคาที่สมเหตุสมผล แต่ยังคงความนุ่ม ทนทาน และประณีต หากคุณกำลังมองหาผ้าใหม่ที่มีคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง ขอแนะนำผ้าไหมมัลเบอร์รี่ในครั้งต่อไปที่คุณซื้อเสื้อผ้าหรือเบาะ
เวลาโพสต์: 26 มี.ค. 2565

